1. ข้อมูลวัตถุดิบ ( Input )
2. กระบวนการ ( Process)
3. ผลผลิต ( Output )
4. การตรวจผลย้อนกลับ ( Feedback) 5. การควบคุม (Comtrol) องค์ประกอบทั้ง 5 ส่วนนี้ จะมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกัน ดังภาพ
เทคโนโลยีการศึกษา คือ เทคโนโลยีเป็นระบบการประยุกต์ผลิตผลทางวิทยาศาสตร์(วัสดุ)และผลิตผลทางวิศวกรรม(อุปกรณ์) โดยยึดหลักทางพฤติกรรมศาสตร์ (วิธีการ) มาช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพทางการศึกษาทั้งในด้าน บริหาร ด้านวิชาการ และด้านบริการ หรืออีกนัยหนึ่ง เทคโนโลยีการศึกษาเป็นระบบ การนาวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการมาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการศึกษาให้สูงขึ้น
วัสดุ (Materials) หมายถึง ผลิตผลทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่มีการผุผัง สิ้นเปลืองได้ง่าย ใช้แล้วหมดไปไม่คงทนถาวร เช่น ชอล์ค ดินสอ กระดาษ ฟิล์ม ฯลฯ
อุปกรณ์ (Equipment) หมายถึง ผลิตผลทางวิศวกรรมที่เป็นเครื่องมือต่าง ๆ เช่น กระดานดา โต๊ะ เก้าอี้ เครื่องฉาย เครื่องเสียง เครื่องรับโทรทัศน์ ฯลฯ
วิธีการ (Techniques) หมายถึง ระบบกระบวนการ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องคานึงถึงหลักจิตวิทยา หลักสังคมวิทยา ภาษา ฯลฯ ที่นามาใช้ในการศึกษา เช่น การสาธิต ทดลอง กลุ่มสัมพันธ์ เป็นต้น
คุณค่าของวิธีระบบ
-ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีขั้นตอน
-ผู้ดำเนินงานสามารถตรวจสอบการดำเนินการได้ทุกขั้นตอน
-ผู้ตรวจสอบสามารถติดตามได้ง่าย
-ทำให้การใช้ทรัพยากรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
-ทำให้การดำเนินงานตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล
-ได้สิ่งเร้าปัญหาที่ดีที่สุด
-ทำให้การทำงานบรรลุผลได้ง่าย
คุณค่าของเทคโนโลยีการศึกษา
-เทคโนโลยีทำให้การเรียนเป็นไปอย่างฉับพลันยิ่งขึ้น เทคโนโลยีการสอนเปรียบเสมือนสะพานที่เชื่อมโยงระหว่างที่อยู่ภาย นอกโรงเรียนและโลกที่อยู่ภายในโรงเรียน
-เทคโนโลยีทำให้การสอนมีพลังยิ่งขึ้น ระบบการสื่อสารในปัจจุบันได้ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับคนเรา ดังนั้นสื่อการสอนในยุคใหม่นี้จึงสามารถจำลองสถานการณ์จริง ช่วยร่นระยะทางและเหตุการณ์ที่อยู่คนซีกโลกมาสู่นักเรียนได้
-เทคโนโลยีเน้นการศึกษาไปสู่ความเป็นส่วนบุคคลมากขึ้น การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสมนั้นเป็นการขยายขอบเขตของการเรียนรู้ออกไปได้อย่างกว้าง
-เทคโนโลยีก่อประโยชน์แก่ระบบการศึกษามากขึ้น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการศึกษาสามารถเร่งอัตราการเรียนรู้ให้เร็วขึ้น ลดภาระทางด้านการบริหารของครูและยังทำหน้าที่แทนครูในการถ่ายทอดเรื่องราวหรือข่าวสารประจำวันต่าง ๆ
-เทคโนโลยีสามารถทำให้เกิดความเสมอภาคของการศึกษามากขึ้น
อ้างอิง : http://www.edu.nu.ac.th/wbi/355201/p2-3.html
http://netnapa-aon9.blogspot.com/2007/11/2.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น